วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Aloe Vera Extract (อัตราสกัด 10:1 FullAssay™)


                Aloe Vera Extract  ว่านหางจระเข้ สกัดอัตราส่วน 10:1 FullAssay™ โดยเป็นของเหลว มีไกลโคโปรตีน , โพลีแซคคาไรด์  ช่วยปรับสภาพผิวลดอาการแพ้ระคายเคืองโดยเฉพาะผิวที่ไหม้เกรียมแดด ปกป้องผิวจากรังสี UV สมานแผลเป็นต่างๆทำให้แผลหายเร็วขึ้น ลดการอักเสบและระคายเคืองของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ให้ผิวเรียบเนียน ลดการอักเสบของสิวทำให้สิวแห้งเร็วมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ผิวจะเนียนนุ่มและชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน

สกัดจาก inner fillet (เนื้อว่าน หลังจากปลอกเปลือก) ผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรส์ และกรรมวิธีสกัดด้วยอุณหภูมิต่ำ หลังจากนั้นนำไป freeze dry (หรือการแช่แข็งแห้งด้วยความเย็นต่ำมาก) เพื่อรักษาสภาพของสาร polysaccharides ต่างๆที่อยู่ในเนื้อว่านหางจระเข้

ความแตกต่างระหว่าง FullAssay™ และชนิดธรรมดา:
-FullAssay™ มีสาร Aloin A, Aloin B ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ของว่านหางจระเข้ ครบถ้วน
-FullAssay™ ของเหลวมีสีเหลือง เนื่องจากสาร Aloin มีลักษณะสีเหลืองตามธรรมชาติ
-ชนิดธรรมดา ของเหลวสีใส เนื่องจากมีสารกลุ่ม Aloin ไม่ครบถ้วน ทำให้มีประสิทธิภาพน้อยกว่า
-การใช้ Extract ชนิด FullAssay™ ในระดับ 1-3% ไม่ได้ส่งผลให้สีของผลิตภัณฑ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ

การใช้: สำหรับผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย  อยู่ในรูปของเจล เซรั่ม โลชั่น หรือ ครีม
วิธีการผสม: ผสมในน้ำ (water-phase) โดย pH ของผลิตภํณฑ์อยู่ระหว่าง 4.5-7
อัตราการใช้: 1-3% (3% เท่ากับ 30% Aloe Vera)
ลักษณะผลิตภัณฑ์: ของเหลวสีเหลือง
การละลาย: สามารถละลายในน้ำ
การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในที่เย็น อุณหภูมิ 4°C ห้ามโดนแสงแดด เมื่อเปิดฝาแล้วปิดทันที และซีลให้สนิท
ผลิตโดย USA

INCI Name: Aloe Barbadensis Leaf Juice

Sea Kelp Bioferment

                  Sea Kelp Bioferment  สกัดจากสาหร่ายใต้ทะเล Sea Kelp ด้วยวิธีการบ่มด้วย Lactobacillus แบคทีเรียชนิดเดียวกันกับที่ใช้ในโยเกิร์ต มีลักษณะเป็นเนื้อเจล มีประสิทธิภาพสูงในการให้ความชุ่มชื้นผิวโดยไม่มีน้ำมัน (oil-free moisturizer) นอกจากนี้ยังสามารถใช้บำรุงผมได้ให้ผมนุ่ม เงางาม และหนาขึ้น
               Sea Kelp Bioferment ประกอบด้วยสารอาหารมากมายได้แก่ Cysteine, Lysine, Aspartic, Glutamic, Proline, Methionine, Tryptophane, Arginine, และ Ornithine เป็นหนึ่งในสารสกัดชั้นยอดที่ มีคุณสมบัติสามารถคงสมดุลให้แก่ทุกประเภทผิวพรรณ ทำให้ผิวที่แพ้ง่าย แข็งแรงขึ้น และยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับโครงสร้างเซลล์ผิวได้ สุขภาพผิวแข็งแรง ไม่แพ้ง่าย ทั้งยัง มีคุณสมบัติในการชะลอการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อต่างๆ พร้อมกระตุ้นเซลล์ผิว เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเส้นเลือดฝอยใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวแลดูเปล่งปลั่งมีเลือดฝาด ทั้งยังมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวสุขภาพดี แข็งแรง เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น ดูมีน้ำมีนวลยิ่งขึ้น ซ่อมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และคงความอ่อนเยาว์ของผิว

(เนื้อผลิตภัณฑ์อาจมีตะกอนอยู่บ้าง ซึ่งไม่ได้มีผลต่อประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์แต่อย่างใด กรุณาเขย่าก่อนใช้)

การใช้: สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิว อยู่ในรูปของเจล เซรั่ม โลชั่น หรือ ครีม
วิธีการผสม: ผสมในน้ำ หรือ emulsifier โดยสามารถทนความร้อนได้ สามารถใช้โดยไม่ต้องผสมอะไรเพิ่มเติมได้
อัตราการใช้: 5-100% (สามารถใช้ pure 100% ทาผิวได้โดยตรง แต่หากผสมใสเครื่องสำอางค์ สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ)
ลักษณะผลิตภัณฑ์: เจลใส เหนียวเล็กน้อย (ผลิตภัณฑ์จาก Bull Kelp สหรัฐอเมริกา แท้ ไม่เจือจางด้วยน้ำ และไม่ก่อตัวเป็นขุยเมื่อแห้งเหมือน Seakelp Bioferment ทั่วไป เมื่อใช้ความเข้มข้นสูง เกิน 50% ทาลงบนผิวหน้า)
การละลาย: สามารถละลายในน้ำ
การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในที่เย็น 4°C-25°C มีอายุอย่างต่ำ 2ปี
ผลิตจาก วัตถุดิบ Kelp จาก USA Marine

INCI Name:  Lactobacillus/Nereocystis Luetkeana Ferment Filtrate or Lactobacillus/Kelp Ferment Filtrate
(กันเสียด้วย Phenoxyethanol 0.3%)

Bisabolol (German Chamomile Extract)

              Alpha Bisabolol (German Chamomile Extract, Anthemis Nobilis Flower Extract) เป็นสารสังเคราะห์ สามารถสกัดได้จากดอก คาโมมายล์ สายพันธุ์เยอรมัน (German chamomile) ช่วยลำเลียง active ingredients ในเครื่องสำอางค์ลงสู่ผิวหนัง (transdermal) และมีประสิทธิภาพในการลดการระคายเคือง การอักเสบ การแพ้ และมีฤทธิ์ต่อต้านแบคทีเรีย

การใช้: สำหรับเครื่องสำอางค์ทุกชนิด รวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก อยู่ในรูปของเจล เซรั่ม โลชั่น หรือ ครีม
วิธีการผสม: ผสมในน้ำมันชนิดอื่นๆ (oil-phase) หรือ emulsifier โดยมี pH อยู่ในช่วง 3-11
อัตราการใช้: 0.5-1% (แนะนำ 1%)
ลักษณะผลิตภัณฑ์: น้ำมันเหลวขุ่น ออกสีเหลืองอ่อน
การละลาย: สามารถละลายในน้ำมัน และแอลกอฮอลล์
การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในตู้เย็น อุณหภูมิระหว่าง 4°C-8°C มีอายุอย่างต่ำ 30เดือน 
ผลิตโดย Royal DSM N.V., The Netherlands

INCI Name: (Alpha) Bisabolol

Snail Secretion เมือกหอยทาก

                เมือกหอยทาก สายพันธ์ Helix Aspersa Muller ของประเทศชิลี ประกอบด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์กับผิว ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดการระคายเคือง ให้ความชุ่มชื้นผิว โดยให้ตัวหอยทาก ใช้เมือกนี้ในการสร้างเปลือกใหม่เมื่อเปลือกถูกทำลาย
               ในเมือกหอยทางชิลี จะประกอบด้วยส่วนผสมหลากหลายชนิด เช่น Allantoin (ช่วยลดการระคายเคือง), Collagen (ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนของผิว), Elastic (ช่วยเสริมสร้างการยืดหยุ่นของผิว), Glycolic Acid (ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนๆ), Antibiotic Peptides (ช่วยลดการระคายเคือง ลดการอักเสบของผิว) และวิตามินต่างๆ


การใช้: สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทุกชนิด
วิธีการผสม: ผสมในขั้นตอนสุดท้าย โดยอุณหภูมิของเครื่องสำอางค์ต้องต่ำกว่า 40°C มีค่า pH ระหว่าง 4-8
อัตราการใช้: 1-5% (แนะนำ 3%)
ลักษณะผลิตภัณฑ์: ของเหลวใส *ไม่ได้มีลักษณะเป็นเมือก เนื่องจากผ่านการสกัดและฆ่าเชื้อ* มี pH อยู่ในช่วง 6.5-8
การละลาย: สามารถละลายในน้ำ
การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในตู้เย็น อุณหภูมิ 6-8องศา มีอายุอย่างต่ำ 24เดือน
ผลิตจาก Chile

INCI Name: Snail Secretion Filtrate (กันเสียด้วย Phenoxyethanol 0.4%)

Bio-Yeast Essence™

                     Bio-Yeast Essence™   คือสารที่ได้จากการหมักบ่มยีสต์ชนิดพิเศษ พัฒนาให้คล้ายคลึงกับสาร Pitera ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของ SK-II (บริษัท P&G)

              กรรมการวิธีการสกัด: ใช้แสง UV ความยาวคลื่นที่เหมาะสม ตกกระทบบนผนังเซลล์ของยีส ชนิด Saccharomyces ที่ผ่านกระบวนการ Ferment + Filtrate แล้ว ผนังเซลล์จะคายสารที่ต้องการออกมา ซึ่งสารนี้ผ่านการวิจัยว่าสามารถกระตุ้นเมตาบอลิซึม ของเซลล์ผิวหน้า ซึ่งก่อให้เกิดผลลัพธ์ต่างๆดังนี้

-เพิ่มความกระชับผิว
-ฟื้นฟูสุขภาพผิว ลดริ้วรอย
-ให้ผิวอ่อนนุ่ม และชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่อง ลดการระคายเคือง
-ให้ผิวเรียบเนียบ มีชีวิตชีวา

การใช้: สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิว อยู่ในรูปของเจล เซรั่ม โลชั่น หรือ ครีม
วิธีการผสม: ผสมในน้ำ โดย pH อยู่ในช่วง 5-7
อัตราการใช้: 0.5-1.0% (แนะนำ 1.0%)
ลักษณะผลิตภัณฑ์: ของเหลว สีเหลือง มีกลิ่นยีสอ่อนๆ มี pH อยู่ในช่วง 5.5 - 6.5
การละลาย: สามารถละลายในน้ำ
การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในตู้เย็น อุณหภูมิ 10°C-15°C อาจก่อตัวเป็นวุ่นหากเก็บไว้ในอุณหภูมิต่ำกว่านี้ แต่สามารถกลับคืนสู่สภาพปกติ เมื่ออยู่ในอุณหภูมิสูงขึ้น

INCI Name: Saccharomyces Lysate Extract

Glucosamine (N-acetyl-D)

           
             Glucosamine (N-acetyl-D) สำหรับใช้ร่วมกับ Vitamin B3 (Niacinamide) ทำหน้าที่เป็น whitening และสามารถลบรอยจุดด่างดำ รวมถึงกระตุ้นให้ผิวสร้าง Hyaluronic Acid ได้ตามธรรมชาติ ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น และช่วยลดริ้วรอยได้ ให้ความชุ่มชื้นอย่างอ่อนโยนจากภายใต้ชั้นผิว


N-Acetyl Glucosamine ไม่ใช่ Glucosamine Sulfate ที่ใช้รักษาโรคไขข้อ / โรคข้อเสื่อม และสารทั้งสองชนิด ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ เพียงแค่ชื่อคล้ายกัน



การวิจัย กระบวนการชะลอการก่อสีผิว (Inhibition of Pigmentation Process) 
โดยกระบวนการจะสมบูรณ์ได้ ต้องใช้ทั้ง Glucosamine และ Vitamin B3 (Niacinamide) ร่วมกัน

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิจัยกระบวนการ Whitening ของ Glucosamine ดูผลการวิจัยของ P&G จาก link นี้

1.TOPICAL FORMULATION CONTAINING N-ACETYL GLUCOSAMINE AND NIACINAMIDE REDUCES THE APPEARANCE OF HYPERPIGMENTED SPOTS ON HUMAN FACIAL SKIN


การใช้: สำหรับผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย whitening ให้ผิวขาว อยู่ในรูปของเจล เซรั่ม โลชั่น หรือ ครีม
วิธีการผสม: ผสมในน้ำ (water-phase) โดยสามารถทนความร้อนได้ แต่ไม่ควรใช้ความร้อนนาน และควรอยู่ในสูตรที่มี pH ในช่วง 3-7
อัตราการใช้: 3-4% (แนะนำใช้ 4% ร่วมกับ Niacinamide 2-4%)
ลักษณะผลิตภัณฑ์: ผงสีขาว มี pH ในช่วง 6-7
การละลาย: สามารถละลายในน้ำ
การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในอุณหภูมิห้อง ห้ามโดนแสงแดด ความร้อน ซีลฝาให้สนิท มีอายุอย่างน้อย 2ปี
INCI Name: N-Acetyl-D-Glucosamine หรือ N-Acetyl Glucosamine

Tranexamic Acid

                 ทราเนซามิค แอซิด ทำหน้าที่ให้ผิวขาว ลดการก่อตัวของเม็ดสี melanin เหมาะสำหรับการใช้แก้ปัญหาฝ้า

           Tranexamic Acid จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เมื่อใช้สำหรับปรับผิวให้ขาวใส ในกรณีที่ผิวคล้ำ หรือเป็นฝ้า โดยมีสาเหตุจากแสงแดด
ข้อกำหนดการใช้: ปัจจุบัน อ.ย. และ FDA ASEAN อนุญาติให้ใช้ได้ไม่เกิน 3% ในเครื่องสำอางเพื่อให้ผิวขาวกระจ่างใส ในกรณีที่ผสมในสูตรเกิน 5% จะต้องลงทะเบียนเป็น ยา แก้ฝ้า
ห้ามใช้เกิน 5% เพราะอาจระคายเคืองผิว
การใช้: เป็นสาร whitening ให้ผิวขาวใส และแก้ฝ้า ในครีม โลชั่น เซรั่ม หรือเจล
วิธีการผสม: ผสมใน water - phase  โดยสูตรควรมี pH ในช่วง 3-8
อัตราการใช้: 3-5% (หากใช้เกิน 3% ต้องขึ้นทะเบียนเป็นยารักษาฝ้า หากใช้ไม่เกิน 3% สามารถขึ้นทะเบียนเป็นเครื่องสำอางได้)
ลักษณะผลิตภัณฑ์: ผงสีขาว มี pH ช่วง 6.5-7.5
การละลาย: สามารถละลายในน้ำ
การเก็บรักษา: เก็บในตู้เย็น อุณหภูมิ 6-8องศา ปิดฝาขวดให้สนิท แล้วมิดชิดจากแสงแดด หรือความร้อน ผลิตภัณฑ์มีอายุอย่างต่ำ 2ปี

INCI Name: Tranexamic Acid 



Delentigo

                       Whitening ที่ออกแบบสำหรับลดจุดด่างดำแห่งวัย (age-spot) มีประสิทธิภาพทั้งการลดการผลิตเม็ดสี Melanin และการก่อตัวของ Lipofuscin

                 Delentigo เป็นผลวิจัยของ Mibelle Biochemistry Switzerland เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ถูกออกแบบเพื่อให้ช่วยทั้งการลด Melanin และ Lipofuscin สารสกัดจากธรรมชาติถูกบรรจุอยู่ใน Liposome ที่สามารถดูดซึมสู่ผิวได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้ง Delentigo ยังเหมาะกับการใช้ร่วมกับ Nanowhite เพื่อให้เกิดผลด้าน whitening ได้มากยิ่งขึ้น


ผลการทดลอง หลังจากใช้ Delentigo ความเข้มข้น 4% ติดต่อกัน 4สัปดาห์ (*ผลการใช้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)



การใช้: สำหรับผลิตภัณฑ์ whitening ให้ผิวขาว อยู่ในรูปของเจล เซรั่ม โลชั่น หรือ ครีม (ใช้ติดต่อกันอย่างน้อย 4สัปดาห์)
วิธีการผสม: ผสมในขั้นตอนสุดท้าย โดยอุณหภูมิของเครื่องสำอางค์ต้องต่ำกว่า 40°C มีค่า pH ระหว่าง 4-7
อัตราการใช้: 2-6% (แนะนำ 5% สำหรับ whitening ให้ผิวขาวใส)
ลักษณะผลิตภัณฑ์: ของเหลว สีเหลือง มี pH อยู่ระหว่าง 5-7
การละลาย: สามารถละลายในน้ำ
การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในตู้เย็น หรือที่เย็น 8-25องศา มีอายุอย่างต่ำ 24เดือน
ผลิตโดย Mibelle Biochemistry, Switzerland

INCI Name: Lepidium Sativum Sprout Extract (and) Lecithin (and)Soy Isoflavones (and) Polysorbate 80 (and) Alcohol (and)Glycerin (and) Phenoxyethanol (and) Aqua / Water

Azelaic Acid (Potassium Azeloyl Diglycinate)

                    Azelaic Acid ชนิดละลายน้ำได้ (Potassium Azeloyl Diglycinate) ให้ผิวขาวใส รักษาฝ้า รอยดำ ลดความมันบนผิว ควบคุมการสร้างน้ำมันของรูขุมขน ลดสิวอุดตัน
Azelaic Acid เป็นสารหลักที่ใช้ใน Skinoren Cream ซึ่งมีประสิทธิภาพในการปรับให้ผิวขาว รักษาฝ้า

การทดสอบประสิทธิภาพของ Azelaic Acid ที่ให้ผิวกระจ่างใส
จากการใช้  Azeloyl Diglycinate  ความเข้มข้น 3% บนผิวของชาวตะวันตก (ฝรั่ง-ผิวขาว) วันละ 2ครั้ง ติดต่อกัน 3สัปดาห์ พบว่า สีผิว (L-Brightness) จางลงอย่างชัดเจน

จากการใช้ Potassium Azeloyl Diglycinate ความเข้มข้น 5% บนผิวของชาวเอเชีย (เหลืองอ่อน - เหลืองคล้ำ) วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 4สัปดาห์ LSIN1084 (Potassium Azeloyl Diglycinate) เมื่อเทียบกับ LSIN1079 (ครีมเปล่า ไม่มีส่วนผสมออกฤทธิ์ใดๆ) และเทียบกับ LSIN1080 (Kojic Acid) และ LSIN1082 (Arbutin) พบว่า Potassium Azeloyl Diglycinate มีประสิทธิภาพให้ผิวขาวที่เหนือกว่า Kojic Acid และ Arbutin เล็กน้อย แต่ให้ผลอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับการใช้ครีมเปล่า

การทดสอบ Azelaic Acid ในประสิทธิภาพการลดความมันของผิว ลดสิวอุดตัน ลดการทำงานของต่อมไขมัน(sebum)
พบว่า Potassium Azeloyl Diglycinate มีประสิทธิภาพในการลดควบคุมการทำงานของต่อมไขมัน sebum ชัดเจน และช่วยลดความมันของผิว

              Potassium Azeloyl Diglycinate เกิดจากปฎิกิริยา ระหว่าง Azelaic Acid และ Glycine (สารให้ความชุ่มชื้น) จึงไม่ใช่ Azelaic Acid ปกติ แต่เป็นชนิดพิเศษที่สามารถละลายน้ำได้ และอ่อนโยนกว่าชนิดปกติ จึงสามารถใช้ในเครื่องสำอางได้ ในขณะที่ Azelaic Acid ไม่ได้รับการอนุญาติ จาก อ.ย. ให้ใช้ในเครื่องสำอาง เนื่องจากอาจระคายเคืองผิว (อนุญาติให้ใช้เฉพาะในยา)
และ Azelaic Acid มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด ในระหว่างการใช้

การใช้: สำหรับผลิตภัณฑ์ whitening ให้ผิวขาว หรือลดหน้ามัน/ลดสิวอุดตัน อยู่ในรูปของเจล เซรั่ม โลชั่น หรือ ครีม
วิธีการผสม: ผสมในขั้นตอนสุดท้าย โดยอุณหภูมิของเครื่องสำอางค์ต้องต่ำกว่า 40°C มีค่า pH ระหว่าง 5-11
อัตราการใช้: 5-10% (แนะนำ 10% สำหรับ whitening ให้ผิวขาวใส รักษาฝ้า และลดความมันบนใบหน้า)
ลักษณะผลิตภัณฑ์: ของเหลว สีใสหรือสีเหลืองอ่อน pH ประมาณ 7-8
การละลาย: สามารถละลายในน้ำ
การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในตู้เย็น ห้ามโดนแสงแดด ความร้อน ซีลฝาให้สนิท มีอายุอย่างต่ำ 24เดือน
ผลิตโดย Italy

INCI Name: Potassium azeloyl diglycinate